วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ป.วิอาญา ม.150

มาตรา 150 ในกรณีที่จะต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ให้พนักงาน สอบสวนแห่งท้องที่ที่ศพนั้นอยู่กับแพทย์ทางนิติเวชศาสตร์ซึ่งได้รับวุฒิบัตร หรือได้รับหนังสืออนุมัติจากแพทยสภา ทำการชันสูตรพลิกศพ โดยเร็ว ถ้าแพทย์ทางนิติเวชศาสตร์ดังกล่าวไม่มีหรือไม่อาจปฏิบัติ หน้าที่ได้ ให้แพทย์ประจำโรงพยาบาลของรัฐปฏิบัติหน้าที่ ถ้าแพทย์ ประจำโรงพยาบาลของรัฐไม่มีหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้แพทย์ ประจำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปฏิบัติหน้าที่ ถ้าแพทย์ประจำ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดไม่มีหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้แพทย์ ประจำโรงพยาบาลของเอกชนหรือแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่ขึ้นทะเบียนเป็นแพทย์อาสาสมัครตามระเบียบของกระทรวง สาธารณสุขปฏิบัติหน้าที่ และในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ให้แพทย์ประจำโรงพยาบาลของเอกชนหรือแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้นั้น เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ทั้งนี้ ให้พนักงาน สอบสวนและแพทย์ดังกล่าวทำบันทึกรายละเอียดแห่งการชันสูตรพลิกศพทันที และให้แพทย์ดังกล่าวทำรายงานแนบท้ายบันทึกราย ละเอียดแห่งการชันสูตรพลิกศพด้วยภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับ แจ้งเรื่อง ถ้ามีความจำเป็นให้ขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกินสอง ครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวัน แต่ต้องบันทึกเหตุผลและความจำเป็น ในการขยายระยะเวลาทุกครั้งไว้ในสำนวนชันสูตรพลิกศพ รายงาน ดังกล่าวให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสำนวนชันสูตรพลิกศพ และในกรณีที่ ความตายมิได้เป็นผลแห่งการกระทำผิดอาญา ให้พนักงานสอบสวน ส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพไปยังพนักงานอัยการเมื่อเสร็จสิ้นการ ชันสูตรพลิกศพโดยเร็วและให้พนักงานอัยการดำเนินการต่อไปตาม มาตรา 156 
ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนแจ้งแก่ผู้มีหน้าที่ไปทำการ ชันสูตรพลิกศพทราบ และก่อนการชันสูตรพลิกศพ ให้พนักงานสอบ สวนแจ้งให้สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือญาติของผู้ตายอย่างน้อยหนึ่งคนทราบเท่าที่จะทำได้
ในกรณีที่มีความตายเกิดขึ้นโดยการกระทำของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือตายในระหว่างอยู่ในความ ควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ให้ พนักงานอัยการและพนักงานฝ่ายปกครองตำแหน่งตั้งแต่ระดับปลัด อำเภอหรือเทียบเท่าขึ้นไปแห่งท้องที่ที่ศพนั้นอยู่เป็นผู้ชันสูตรพลิก ศพร่วมกับพนักงานสอบสวนและแพทย์ตามวรรคหนึ่ง และให้นำ บทบัญญัติในวรรคสองมาใช้บังคับ
เมื่อได้มีการชันสูตรพลิกศพตามวรรคสามแล้ว ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้พนักงานอัยการ เข้าร่วมกับพนักงานสอบสวนทำสำนวนชันสูตรพลิกศพให้เสร็จภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งถ้ามีความจำเป็นให้ขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวันแต่ต้องบันทึกเหตุผลและความจำเป็นในการขยายระยะเวลาทุกครั้ง ไว้ในสำนวนชันสูตรพลิกศพ
เมื่อได้รับสำนวนชันสูตรพลิกศพแล้ว ให้พนักงานอัยการทำ คำร้องขอต่อศาลชั้นต้นแห่งท้องที่ที่ศพนั้นอยู่ เพื่อให้ศาลทำการไต่ สวนและทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และถึง เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ถ้าตายโดยคนทำร้ายให้กล่าวว่าใครเป็น ผู้กระทำร้ายเท่าที่จะทราบได้ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับ สำนวน ถ้ามีความจำเป็น ให้ขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกินสอง ครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวัน แต่ต้องบันทึกเหตุผลและความจำเป็น ในการขยายระยะเวลาทุกครั้งไว้ในสำนวนชันสูตรพลิกศพ
ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง วรรคสาม วรรคสี่ และ วรรคห้า ให้พนักงานสอบสวนปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานอัยการ
ในการไต่สวนตามวรรคห้า ให้ศาลปิดประกาศแจ้งกำหนดวันที่ จะทำการไต่สวนไว้ที่ศาล และให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลส่งสำเนาคำร้องและแจ้งกำหนดวันนัดไต่สวนให้สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรมผู้อนุบาล หรือญาติของ ผู้ตายตามลำดับอย่างน้อยหนึ่งคนเท่าที่จะทำได้ทราบก่อนวันนัด ไต่สวนไม่น้อยกว่าสิบห้าวันและให้พนักงานอัยการนำพยานหลักฐาน ทั้งปวงที่แสดงถึงการตายมาสืบ
เมื่อศาลได้ปิดประกาศแจ้งกำหนดวันที่จะทำการไต่สวนแล้ว และก่อนการไต่สวนเสร็จสิ้น สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาล หรือญาติของผู้ตายมีสิทธิยื่น คำร้องต่อศาลขอเข้ามาซักถามพยานที่พนักงานอัยการนำสืบ และ นำสืบพยานหลักฐานอื่นได้ด้วย เพื่อการนี้ สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือญาติของผู้ตายมีสิทธิ แต่งตั้งทนายความดำเนินการแทนได้ หากไม่มีทนายความที่ได้รับ การแต่งตั้งจากบุคคลดังกล่าวเข้ามาในคดี ให้ศาลตั้งทนายความขึ้น เพื่อทำหน้าที่ทนายความฝ่ายญาติผู้ตาย
เมื่อศาลเห็นสมควร เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลจะ เรียกพยานที่นำสืบมาแล้วมาสืบเพิ่มเติม หรือเรียกพยานหลักฐานอื่น มาสืบก็ได้และศาลอาจขอให้ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญมาให้ความ เห็นเพื่อประกอบการไต่สวนและทำคำสั่ง แต่ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิของผู้ นำสืบพยานหลักฐานตามวรรคแปดที่จะขอให้เรียกผู้ทรงคุณวุฒิหรือ ผู้เชี่ยวชาญอื่นมาให้ความเห็นโต้แย้งหรือเพิ่มเติมความเห็นของผู้ ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว
คำสั่งของศาลตาม มาตรานี้ ให้ถึงที่สุด แต่ไม่กระทบกระเทือนถึง สิทธิฟ้องร้องและการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล หากพนักงาน อัยการหรือบุคคลอื่นได้ฟ้อง หรือจะฟ้องคดีเกี่ยวกับการตายนั้น
เมื่อศาลได้มีคำสั่งแล้ว ให้ส่งสำนวนการไต่สวนของศาลไปยัง พนักงานอัยการเพื่อส่งแก่พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป 
แพทย์ตามวรรคหนึ่ง เจ้าพนักงานผู้ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ และผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญที่ศาลขอให้มาให้ความเห็นตาม มาตรานี้ มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน หรือค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พัก ตามระเบียบที่กระทรวงยุติธรรมกำหนดโดยความ เห็นชอบของกระทรวงการคลัง ส่วนทนายความที่ศาลตั้งตามมาตรนี้ มีสิทธิได้รับเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับทนายความที่ศาลตั้ง 

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

องคุลีมาล

องคุลีมาล
http://www.youtube.com/watch?v=G_mmgqIwbes
องคุลีมาล - โรม ศรีธรรมราช.mp3



องคุลีมาลเป็นบุคคลในตำนานสมัยพุทธกาล  ฆาตกร 999 ศพ  เขาเกิดในฤกษ์ดาวโจร ตามลัทธิความเชื่อของพราหมณ์สมัยนั้นเด็กที่เกิดในฤกษ์นี้ มักมีนิสัยสันดานหยาบช้า ดีร้ายกลายเป็นโจรใจทมิฬไป เพื่อเลี่ยงชะตากรรม เหล่าญาติ ๆ จึงขนานนามว่า อะหิงสะกะ แปลว่า ผู้ไม่เบียดเบียนใคร

เมื่อเจริญวัย พ่อแม่ได้หา เด็กหญิงชาย ที่มีนิสัยอ่อนโยนมาเป็นเพื่อนให้ลูกชายเล่นด้วย เพื่อช่วยกล่อมเกลาจิตใจไม่ให้หยาบคายจนลูกชายทำท่าจะเป็น เกย์ อยู่รอมร่อ.....ถึงคราวิถีชีวิตต้องตามลิขิตแห่งชะตากรรม เขาถูกส่งให้ไปเรียนยังสำนัก อาจารย์ทิศาปาโมกข์แห่งเมืองตักกะศิลา อันเป็นสถานศึกษาขึ้นชื่อในสมัยนั้น

เขามีรูปร่างงดงาม มารยาทเป็นผู้ดีมีสกุล นิสัยอ่อนโยน ร่ำเรียนก็ก้าวหน้าเร็วเก่งซะไม่มี ด้วยเหตุผลดังนี้ เขาจึงถูกคัดเลือกให้ไปอยู่ร่วมกับชายคาบ้านเดียวกับอาจารย์ ซึ่งมีภรรยาสาวสวยซ่ะ..........เพื่อช่วยงานของอาจารย์ที่บ้านนั้น

เพื่อน ๆ ที่ร่วมชั้นเรียนเกิดความริษยา ตาถลน อาจารย์หรือก็โปรดเขามาก ๆ อย่ากระนั้นเลย เพื่อน ๆ จึงหาแผนการชั่วหยาบทำลายล้างกำจัด อหิงสกะ ไปให้พ้นทาง ของพวกตน
เพื่อนที่ดีแม้มีหนึ่งถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา
เหมือนหนึ่งเกลือแม้มีน้อยด้วยราคา
ยังดีกว่าน้ำเค็มเต็มทะเล....

แผนการถูกกำหนด
จึงผลัดกันยุแหย่อาจารย์ว่า อหิงสกะ กินบนเรือนขี้รดหัวอาจารย์ กำลังสวมเขาให้อาจารย์ ไม่เชื่อจารย์จับตาสังเกตเอาเอง.............
ฝ่ายภรรยาสาวสวยของอาจารย์ เห็นเด็กหนุ่มหน้าตาหุ่นดีมีสกุล ก็เคลิ้ม ให้ความเอ็นดูสนิทสนมเป็นพิเศษ โป๊ะเช๊ะ..........อาจารย์เกิดความระแวงเช่นที่ถูกเป่าหู..........อำนาจความหึงหวงบ่วงกามาเหนือคุณธรรมแห่งศิษย์กับครู ปล่อยไม่ได้ไอ้นี่ อาจารย์คิด

วันหนึ่งจึงเรียก อหิงสกะ เข้าพบ บอกว่า เรามีวิชาช่วยมนุษย์ที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพได้ แต่ไม่เห็นลูกศิษย์ไหนคู่ควรจะสอนบอกศาสตร์นี้ เห็นมีเธอที่เห็นมีคุณธรรมควรแท้ แต่ว่า...........เธอจำต้องออกไปฆ่ามนุษย์ ให้ได้พันศพ จึงจะเรียนศาสตร์นี้ได้สำเร็จ เธอไม่ต้องกลัว มนุษย์ที่เธอฆ่าแล้ว จักฟื้นชีพ เมื่อกลับมาศึกษาศาสตร์จากเรา

อหิงสกะ แม้จะเรียนเก่งฉลาด แต่เมื่อไม่เฉลียว ความฉลาดก็แทบไม่ช่วยอะไรเลย..........เขาเชื่ออาจารย์ด้วยความซื่อนับถือว่า อาจารย์จึงมิได้คิดระแวงว่า นี่คือแผนยืมมือคนอื่นให้ฆ่าตน ของอาจารย์ที่ตนนับถือนั้น เขารับปากออกไปฆ่าคนตามเงื่อนไขของอาจารย์ ในบัดต่อมา.....

เมื่อฆ่าคนตายแล้วจำต้องเก็บจำนวนศพเป็นหลักฐาน จึงตัดนิ้วศพมาร้อยเป็นพวกมาลาสวมคอไว้ คนทั่วไปจึงขนานนามเขาว่า องคุลีมาล แปลว่า ผู้มีพวงมาลัยเป็นนิ้วมือ แต่นั้น
ทางการประกาศ พรก. ฉุกเฉินเฉพาะเพื่อจับเป็นจับตาย องคุลีมาล มาสำเร็จโทษ 

ฝ่ายมารดาของ องคุลีมาล ทราบข่าวจากทางการว่า จะจับตายลูกของตน นางกินไม่ได้นอนไม่หลับ รีบเที่ยวตามหาลูกชายเพื่อให้วางศาสตราวุธให้ทางการจับเป็น โทษหนักจะเป็นเบา...........


อุปนิสัยบารมีผู้จะบรรลุพระอรหันต์ แม้ภูเขาสิเนรุ มาบดทับ ก็หาตายไม่ แต่ต้องไม่ทำกรรมอันหนัก ได้แก่อนันตริยกรรมห้า
พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย ทรงตรวจดูสรรพสัตว์ที่จะทรงไปโปรดด้วยข่ายคือพระญาณ เป็นพุทธกิจ ประจำวัน ทรงเห็น องคุลีมาล ปรากฏในข่ายคือพระญาณของพระองค์ 

ทรงเห็นมารดาของเขากำลังจะเจอบุตรชาย ซึ่งได้หลงผิดเป็นชอบไปแล้ว หากไม่ทรงรีบไปขวางทาง องคุลีมาล ก็จะฆ่ามารดา กระทำอนันตริยกรรม อุปนิสัยบารมีแห่งอรหันต์ ก็จะอันตรธานไปด้วยวิบากกรรมนั้น

จึงทรงไปดักทางระหว่างแม่ลูกจะพบกัน............องคุลีมาล เห็นพระบรมศาสดา ก็คิดว่า สมณะนี่ ท่าจะซวยช่วยไม่ได้ เราฆ่ามาก็เหลือศพเดียว ดีเหมือนกัน เอาศพสมณะเป็นคำรบพัน ท่าจะเป็นมงคลเป็นแน่แท้

คิดแล้วก็ปรี่ไปหาพระบรมศาสดาพร้อมเงื้อดาบหมายจะฟันให้ตายด้วยดาบนั้น..........
องคุลีมาล หยุด สมณะ หยุด ๆ
พระบรมศาสดา เราหยุดแล้ว
องคุลีมาล หยุดดิ๊.....
พระบรมศาสดา ก็เราหยุดแล้วนี่

องคุลีมาล วิ่งตามพระบรมศาสดา แต่ไม่ทันสักที ยิ่งตามก็ยิ่งไกล เหนื่อย.........พระองค์ก็ดูเหมือนไม่ได้วิ่ง แต่ทำไมถึงตามไม่ทัน สมณะนี้ท่าจะไม่ธรรมดา............หอบ..........

องคุลีมาล หยุดก่อนสมณะ หยุดก่อน
พระบรมศาสดา เราหยุดแล้ว แต่ท่านซิยังไม่หยุด

องคุลีมาล เห็นท่าจะไม่ไหว จึงทูลไปว่า เอางี้ท่านสมณะเราไม่ฆ่าท่านแล้ว ขอให้ท่านบอกมาก่อนว่า ท่านว่าหยุดแล้วทำไมเราตามท่านไม่ถึงสักที.........

พระบรมศาสดา ตรัสกะเขาว่า เราหยุดแล้วจากการฆ่าเบียดเบียนผู้อื่น ......แต่ท่านหาได้หยุดเช่นเราไม่

องคุลีมาล ฟังพระพุทธดำรัสเพียงนั้น ก็ได้สติ..........โอ กรรมอันหนักของเรา........เกิดความสลดใจ.....ทิ้งดาบลง น้อมศีรษะกราบแทบพุทธุปบาท ของพระบรมศาสดา น้ำตาไหลพราก..............

ทรงกระทำให้แม่ลูกเห็นกัน แล้วตรัสให้พระโอวาท เขาได้ดวงตาเห็นธรรม ได้บรรลุอรหันต์ตามลำดับ เขาทูลขออุปสมบท พระบรมศาสดาทรงขอพระราชทานอภัยโทษ กับทางการแล้วทรงอนุญาตให้อุปสมบท....................

ทำบาป ด้วยเจตนาอ่อน ด้วยเขลาหลงผิด และทำไม่นาน บาปย่อมให้อ่อนให้ผลได้ไม่เต็มที่.....

**ไผ่ พันลำ**

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2555

ออนซอนเด

**ออนซอนเด**
บทเพลง วิสา คัญทัพhttp://www.youtube.com/watch?v=brN9k6Sgy0U
บทกวี ไผ่ พันลำ
--------------------------------------
แว่วศัพท์เสียง พิณแคน แดนอีสาน
ลำนำขับขานผสานเสียง
เจื่อยแจ้วแว่วลำสำเนียง
ร้อยเรียงเสียงขับคนอีสาน

ออนซอนแท่น่อพอสดับ
โปงลางรับกับกลองก้องสะท้าน
ม่วนแท่หมู่เฮาชาวบ้าน
คนอีสานฟังเพลินจำเริญใจ

แม่นคื่อหมู่ดูเป็นมิตรสนิทสนม
สรรพเสียงลอยลมอ่อนไหว
ดนตรีสื่อพาภาษาใจ
รวมไทยอีสานบ้านกูฯ

แดนดินที่คนหมิ่นซ้ำซาก
ดินแดนแสนลำบากอดสู
อีสานนานมาข้าอยู่
เมื่อไหร่ไม่รู้จะดูดีฯ

**ไผ่ พันลำ**
20 ก.ค.54